วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554

แชร์ประสบการณ์-ติดตั้ง inktank ให้ hp deskjet 1050

HP Deskjet 1050 เป็นเครื่องประเภท All In One คือพิมพ์+สแกน+ถ่ายเอกสารได้ในตัวเดียว ราคาก็พันกว่าๆนิดๆ แต่ถ้าต้องการพิมพ์อย่างเดียว ก็ยังมีรุ่น D1000 และ D2000 ให้เลือกอีก บางตัวราคาไม่ถึงพัน


จากประสบการณ์ที่ทำ inktank กับ hp มาหลายตัวแล้ว ผมใช้สูตร "ใส่ตลับสีตลับเดียว" มาโดยตลอด ยกเว้นว่าถ้าเครื่องใดต้องการใช้พิมพ์ดำอย่างเดียว ผมก็จะใส่ตลับดำตลับเดียวเหมือนกัน


ข้อเสียของการใส่ 2 ตลับ แต่งานสำนักงานส่วนมากมีแต่เอกสารตัวอักษรสีดำ จะทำให้ตลับสีตันเร็ว เพราะสีไม่ค่อยมีโอกาสไหลเลย พอมีเอกสารที่จะพิมพ์สีสักที ก็พิมพ์ไม่ได้ซะแล้ว ข้อดีของ HP ก็คือ ใส่สีตลับเดียวก็พิมพ์ได้ โดยจะผสมแม่สีให้เป็นดำ ถึงจะไม่ดำสนิทนัก แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร สิ่งที่ได้ทดแทนกลับมาก็คืออายุของตลับพิมพ์ที่ยาวนานขึ้น


ตลับหมึกที่แถมมากับเครื่อง จะถูกกั้นห้อง แล้วใส่น้ำหมึกมาในห้องเล็กๆ ทำให้พิมพ์ได้ไม่เท่าไรก็หมด ใช้ในบ้านไม่เท่าไร แต่ใช้ในสำนักงานนี่ระวังแทบไม่ทัน เผลอๆไปหน่อย พนักงานแจ้งว่าหมึกหมด ถามไปถามมาบอกว่าหมดมา 3 วันแล้ว พิมพ์แห้งจนหัวพังไปเลย


อย่างนี้ต้องแก้ปัญหาด้วยการติดตั้ง inktank แต่ HP เองก็กันท่าน่าดู(อิอิ) เอาฝาพลาสติคกั้นอ้อมหน้าอ้อมหลัง ยึตน็อตด้วยสกรูหัว 6 เหลี่ยม ไขควงแบนหรือแฉกธรรมดาอย่าหวังจะได้กิน ใหนจะสลักพลาสติคที่ซ่อนตัวอยู่ตามหลืบตามมุมต่างๆ งัดเป็นแตก


ผมเสิร์จหาข้อมูลไปเรื่อย ดูตัวอย่างเครื่องนั้นเครื่องนี้ ยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้ไปเรื่อยๆ จนได้ไอเดียในการเดินสายหมึก โดยต้องเจาะรูเล็กๆเพื่อรัดสายหมึกด้วยเคเบิ้ลไทร์เพียงรูเดียว





ตรงที่ผมทำวงกลมเล็กๆสีแดงไว้นั่นละ ใครมีหัวแร้งปลายแหลมๆ็ก็เอามาจี้ได้เลย หรือจะเอาตะปูขนาดพอเหมาะ เอาคีมจับแล้วมาลนเทียนเพื่อให้ร้อน แล้วก็เอาไปจี้ให้ทะลุก็ได้ ไม่แนะนำให้เจาะด้วยสว่าน เพราะเศษพลาสติคจากการเจาะ อาจสร้างปัญหาให้กับกลไกการขับเคลื่อนหัวพิมพ์ได้





ข้างบนคือหน้าตาของเคเบิ้ลไทร์หรือเข็มขัดรัดสายไฟขนาดเล็ก รูแดงๆที่จะเจาะ จะต้องให้เจ้าตัวนี้สอดเข้าไปได้


ตลับหมึกสีเบอร์ 61 ช่องเติมหมึกจะเป็นแบบในรูปข้างล่าง ช่องบนสุดจะเป็นสีเหลือง กลาง+ล่างซ้ายเป็นสีแดง กลาง+ล่างขวาเป็นสีน้ำเงิน





รูปขอยืมมาจากอินเตอร์เน็ต ใครเป็นเจ้าของอยู่ต้องขออนุญาตด้วยนะครับ ถ้าไม่อนุญาตก็เมล์มาแจ้งได้ จะได้เอาออก


ที่ทำลูกศรชี้ไว้ (สีแดง+สีน้ำเงิน) จริงๆแล้วมาใช้ที่รูคู่ล่างนะครับ รูคู่กลางจะไม่ไปยุ่ง ซึ่งมีต้นสายปลายเหตุอยู่


สังเกตตรงนี้ครับ ตรงรูกลาง 2 รู ลองเทียบกับรูล่างสุดดู





จะเห็นว่า 2 รูล่างสุดนั้น จะเซาะร่องอากาศจากขอบรู วนไปเวียนมา แล้วไปโผล่ทางขอบสติ๊กเกอร์ด้านล่าง เพื่อให้อากาศเข้าได้ เพราะถ้าอากาศเข้าไม่ได้ หมึกก็จะไม่ไหลนั่นเอง


ส่วนรูกลาง 2 รูนั้น จะไม่มีร่องอากาศไปเชื่อมต่อ ทำให้บริเวณขอบๆรูนั้น มีพื้นที่ที่ราบเรียบอยู่ และพื้นที่ตรงนี้ ถูกปิดทับมาอย่างแน่นสนิท โดยสติ๊กเกอร์บนตลับนั่นเอง ซึ่งหมายถึงว่า อากาศไม่สามารถเล็ดลอดมายังรูนี้ได้


ผมจะใช้ประโยชน์ตรงนี้ โดยตัดสติ๊กเกอร์ออกเพียงด้านบนและด้านล่าง ส่วนตรงกลางปล่อยไว้อย่างเดิม จะได้ไม่ต้องหาวิธีอุดให้ยุ่งยากครับ การตัดกระดาษเป็นดังรูปต่อไป





ใช้คัทเตอร์กรีดเป็นเส้นตรง ด้านบนเหนือเลข 61 เมื่อกรีดแล้วก็แกะสติ๊กเกอร์ด้านบน(ที่ผมทำเป็นสีเทา)ออกไปเลย จะมองเห็นรูเติมหมึกสีเหลือง 1 รูอยู่ตรงนี้


จากนั้นใช้คัทเตอร์กรีดใต้วงกลม 3 วง แล้วดึงสติ๊กเกอร์ด้านล่าง(สีเทา)ออกมา จะมองเห็นรูเติมหมึกด้านล่าง 2 รู


ตรงกลางที่ยังมีสติ๊กเกอร์ปิดอยู่ ก็ใช้นิ้วหัวแม่มือ กดๆคลึงๆ ให้สติ๊กเกอร์แนบลงไปให้สนิทยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้อากาศวิ่งผ่านตรงนี้ได้


หลังจากนี้ก็นำสว่านมาคว้านรูบนและรูล่างเพิ่มเล็กน้อย เพื่อให้จุกยางของ inktank สามารถเสียบลงไปได้ ตัว inktank ใช้ของ advice ราคาแค่ 95 บาท





อุปกรณ์สำคัญอีกตัวหนึ่งคือ cable tie base หรือฐานสำหรับเคเบิ้ลไทร์ หรือเคยเห็นมีคนเรียกว่าตีนตุ๊กแกก็มีั ปกติแล้ว ตัวมันเองจะติดกาว 2 หน้ามาไว้ให้แล้ว สามารถแกะกระดาษออกแล้วนำไปติดตั้งได้เลย แต่จากการใช้งานจริง ไม่นานมันก็หลุดออกได้ ผมเลยใช้วิธีแกะกระดาษออก แล้วเอากาวช้างมาทาบางๆบนกระดาษกาวอีกที แล้วค่อยนำไปติดตั้งในเครื่องพิมพ์





ตำแหน่งที่จะติดตั้ง cable tie base คือบริเวณลูกศรสีน้ำเงิน 2 อัน โดยต้องเอื้อมมือล้วงเข้าไปตามแนวลูกศรสีดำ ตามรูปข้างล่่าง ต้องเล็งให้ดีๆ ระวังกาวตราช้างติดมือด้วย (อย่าทากาวมากจนเยิ้ม ยุ่งแน่ๆ)





ลืมบอกไปว่า ต้องเลือก cable tie base แบบตัวเล็กๆ ถ้ามีแบบตัวใหญ่ๆต้องตัดขอบออก ให้พอดีกับร่องที่จะติด ไม่งั้นมันจะไม่สนิท เวลาเดินสายหมึกแล้วหลุดออกมาจะวุ่นวายภายหลัง


ได้ลองวาดรูปแบบคร่าวๆออกมา ดังรูป A, B และ C จะได้เข้าใจมากขึ้น





*** ไปถ่ายรูปมาแล้ว ดูรูปเอาจะดีกว่าเขียนอธิบาย ถ้ามีประสบการณ์ในการติดตั้งอิ็งค์แท้งค์มาบ้าง ก็สามารถทำตามได้ไม่ยากครับ ***

















ระวังเรื่องความยาวของสายหมึก ให้ยาวพอดีสำหรับการเลื่อนไปสุดของทั้งด้านซ้ายและขวา อย่าเหลือไว้มากเกิน เพราะจะไปขวางทางเดินของตลับ และถ้าสั้นเกิน ตลับวิ่งไม่สุดก็จะเกิด error ไม่ยอมทำงาน





ในการใช้งาน จะต้องปิดฝาให้เข้าที่ ไม่สามารถมองเห็นตลับหมึกได้ ฝาจะเบียดๆสายหมึกที่วิ่งเข้าทางด้านขวา จะเผยอออกมาสักนิดนึง
เวลารัดเคเบิ้ลไทร์ ให้เล็งๆสายหมึกให้วิ่งอยู่หลังแผ่นพลาสติค เพราะถ้ามาวิ่งอยู่ข้างหน้า มันจะเบียดกับฝาปิด ถ้าฝาเปิดออกหรือเผยอมากไปจะพิมพ์งานไม่ได้ เพราะจะมีเฟืองบังคับกระดาษอยู่ที่ส่วนล่างของฝานี้ด้วย


ในการใช้งานจริง ถ้ามีการพิมพ์งานอยู่เรื่อยๆจะดีมาก เพราะหมึกจะถูกดูดขึ้นมาที่ตลับอยู่บ่อยๆ แต่เนื่องจากตลับที่ผมใช้นี้คือตลับแถม จุหมึกได้แค่สีละประมาณ 1 ซี.ซี.เท่านั้น เมื่อไม่ได้พิมพ์นานๆ หมึกอาจไหลย้อนกลับได้เ็ล็กน้อย ผมจึงทำชีทงานสำหรับเทสสีไว้ในเอ็กเซล เป็นแถบสีเหลือง-แดง-น้ำเงิน เช้ามาก็ให้พนักงานสั่งพิมพ์แถบสีนี้ออกมาด้วยกระดาษเสียๆสัก 1 แผ่น ก็จะเป็นการดึงให้หมึกไหลเข้าตลับมากขึ้น ก็สามารถพิมพ์งานทั่วไปได้ทั้งวันครับ


เพิ่มเติม
หลังจากติดตั้งใช้งานในที่ทำงานทั้งหมด 4 เครื่อง จึงมีสิ่งที่จะนำมาบันทึกเพิ่มเติมไว้อีกเล็กน้อย
1. ปัญหาจากสายหมึก เนื่องจากร้านที่ขายอิ๊งค์แท้งค์ได้พันสายหมึกไว้รอบๆแท้งค์ แล้วเอาเทปใสพันทับอีก ด้วยเหลี่ยมมุมของตัวแท้งค์ ทำให้เมื่อแกะสายหมึกออกมาแล้วมันบิดไปบิดมา เกิดรอยหยัก งอผิดรูป เมื่อประกอบเข้ากับตลับพิมพ์และรัดเคเบิ้ลไทร์แล้ว มีผลให้การวิ่งไปมาของสายหมึกผิดทิศทางได้ ตรงนี้คงต้องแก้ปัญหาสดๆ จะบิด จะเอียง จะเยื้อง หรือเจาะรูเพิ่ม ต้องแล้วแต่สถานการณ์ ซึ่งผมทำ 4 เครื่อง ใช้หลักการเดียวกัน แต่การเดินสายหมึกก็ต่างๆกันไป
2. การติดตั้งไดรฟ์เวอร์ ถ้าใช้เครื่องเดียวเพียวๆ ไม่แชร์ให้ใคร สามารถใช้วิธีเสียบสาย USB ให้คอมเจอเครื่องพิมพ์และสแกนเนอร์ใหม่ พอถามหาไดรฟ์เวอร์ ก็ให้เข้ามาเสิร์จที่ไดรฟ์ซีดี วิธีนี้จะสะดวกเวลาใช้งาน ไม่ต้องคอยมาตอบ OK เพื่อยอมรับว่าจะใช้ตลับสีตลับเดียว และไม่ต้องคอยตอบ No Thank เพื่อบอกว่าจะไม่สั่งซื้อหมึกดำ
3. ถ้าต้องแชร์เครื่องพิมพ์ ต้อง setup จากแผ่นซีดี หรือไฟล์ที่ดาวน์โหลดลงมาจากเน็ตเท่านั้น ถ้าทำตามข้อ 2 จะเพียงแค่ Test Print ได้ แต่พิมพ์งานจริงไม่ออก
4. ขั้นตอนเกือบสุดท้ายของการติดตั้ง จะพาเราไปหน้า register ให้กด X ลงมาได้เลย จากนั้นก็เลือก ไม่ต้องการ แล้วจึงจบการติดตั้ง ไม่อย่างนั้นคอยแต่จะพาออนไลน์ไปสั่งของอยู่เรื่อย
5. ถ้าทำข้อ 2 ไปแล้ว ต่อมาต้องการลงไดรฟ์เวอร์ตามปกติเพื่อแชร์เครื่องพิมพ์ ให้ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งลงมาใช้เท่านั้น ถ้าใช้แผ่นซีดี มันก็จะเข้ามาค้นได้ไดรฟ์เวอร์เดิมอีก ซึ่งจะแชร์ไม่ได้สักที ต้องระวังครับ
6. หลังจากใช้งานมาพอประมาณ พบว่าสีดำที่ผสมมาจากแม่สี 3 สีนั้นหนักไปทางแดงทุกเครื่องครับ แต่ก็ยังถือว่าพอยอมรับได้กับงานทั่วๆไป ส่วนงานสีนั้นเพี้ยนบ้างแต่ก็ถือว่าดี
7. ตลับแถมบอบบางมาก เครื่องนึงของผมรู้สึกว่าสีแดงจะทะลุไปหาเหลือง ไล่สายหมึกแล้วไม่ได้เสียบผิดแน่ๆ แต่แดงไปผสมกับเหลืองในปริมาณที่ไม่ได้สัดส่วน เวลาพิมพ์ดำกลับดีมากๆ (เป็นงั้นไป) เครื่องนี้ถ้าพิมพ์สีแล้วเพี้ยนมากมาย แต่ก็ยังได้เอกสารสีแบบขำๆ แต่ถ้าตัวอักษรสีดำละก็แจ่มเลย
8. กาวช้างอุดลมไม่ดี แต่เอาเทียนมาหยดใช้ได้ดีมากๆครับ
9. ถ้าเครื่องที่แชร์ไว้ไม่มีใครนั่ง ก็ไม่ต้องเดินมากด OK เพราะพักเดียวมันก็จะปิดหน้าไปเอง


เพิ่มเติมอีกครั้ง
จากการสังเกตทั้งตลับแถม กับตลับที่ซื้อใหม่ #61 นี้ คุณภาพฟองน้ำได้แค่ใช้ 1 ครั้งเท่านั้น ไม่รู้ว่าตั้งใจหรืออย่างไร เพราะพอจะเติมหมึกหลังจากหมึกหมด เวลาแทงเข็มลงไป ฟองนี้แข็งปั้กเลยทีเดียว หากฝืนฉีกหมึกลงไป ก็จะพบกับอาการ"ฟองน้ำไม่อุ้มหมึก" คือเติมเท่าไรไหลลงท่วมเครื่องหมด ต้องเติมทีละนิด และพอเติมแล้วต้องหาเทปกาวมาปิดช่องที่เจาะเพื่อไม่ให้อากาศไหลเร็วเกินไป


อีกอย่างนึง น่าจะมาจากหัวพ่นหมึกรูกว้างกว่าปกติ ข้อดีคือหัวไม่ค่อยตัน พิมพ์เร็ว ข้อเสียคือพิมพ์ได้หยาบกว่าพวกหัวละเอียดๆ และที่เป็นภัยกับการติดตั้งอิ๊งค์แท้งค์ก็คือ ถ้าวางแท้งค์ต่ำก็หมึกไหลย้อนกลับ ถ้าวางแท้งค์สูงก็หมึกไหลท่วมเครื่อง ต้องพอดีๆจริงๆ เท่าที่พบการแก้ปัญหาก็คือ ใส่ตัวบีบสายหมึกขั้นกลางเอาไว้ (เจ้าตัวนี้เขามีไว้รัดสายไม่ให้หมึกไหล เวลาจะเคลื่อนย้ายหรือขณะที่กำลังประกอบ เลื่อนไปด้านนึงจะรัดสาย อีกด้านจะคลายตัวออก) แล้วปล่อยหมึกให้ไหลมาเพียงครึ่งเดียว หรือพอที่จะใช้งานจริงๆ (คงกะยากน่าดู) ส่วนผมใช้แท้งค์ 100 CC. แต่ใส่แค่ครึ่งเดียว แรงดันจะได้ไม่มาก จริงเท็จไม่รู้ครับ เสิร์จเจอก็เลยลองดูบ้าง


สายส่งหมึก ให้วิ่งเข้าด้านขวา แล้วไปเหวี่ยงอยู่ด้านซ้ายอย่างที่ผมทำไว้ดีที่สุดแล้ว เคยลองเข้าซ้ายแล้ววิ่งทางขวา ปรากฏว่าเครื่องฟ้องว่าตลับติดขัดอยู่บ่อยๆ คือเจอความตึงหรือสายหมึกไปดันๆรั้งๆอยู่นิดเดียวก็ฟ้องแล้ว สุดท้ายต้องแก้มาไว้ตามรูป ไม่มีปัญหาอีกเลยครับ ส่วนตัวแท้งค์นั้น จะวางซ้ายหรือขวาก็ได้ถ้าสายส่งหมึกยาวพอ เพราะสามารถเอาสายหมึกลอดใต้ถาดรับกระดาษไปได้


ส่วนการติดแท้งค์ ตลับแถมจะให้ผลดีที่สุด ดีซะจนผมไม่กล้าไปแตะต้องมันอีก เพราะมีเครื่องนึงเจอปัญหาไม่ยอมรับตลับ ไม่รู้ว่าล็อคหรืออย่างไร ซื้อไปใส่ให้ใหม่ก็ไม่รับเหมือนกัน ใช้ได้แต่ตลับดำอย่างเดียว คือถ้าจะซื้อตลับจริงมาใช้ ต้องรีบซื้อแล้วเปลี่ยนทันที ถ้าถอดเข้าถอดออกบ่อยๆ พอมันล็อคแล้วจะล็อคเลย ยังหาวิธีปลดล็อคไม่ได้ครับ


วันนี้(15 พ.ค. 2554) ซื้อมาใช้ส่วนตัวที่บ้านอีกเครื่อง เนื่องจากเครื่องเดิมเล็กและเบาไปหน่อย แมวมานอนแล้วบิดขี้เกียจ ร่วงพื้นทั้งเครื่องทั้งหมึกกระจายเลยทีเดียว กรรมจริงๆ...เสียดายตลับ #21, 22 มาก เพราะว่ามันทนเหลือหลาย ใช้เป็น 2-3 ปีไม่ยอมพังสักที


ไว้มีอะไรเพิ่มอีกก็จะแวะมาอัพเดทไว้ ขอให้ใช้งานกันให้คุ้มค่าครับผม...สวัสดีครับ 


เคดิตจาก http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=loongmit&month=13-03-2011&group=10&gblog=44

INKTANK กับตลับ HP#22 แบบไม่ไหลย้อนกลับ

ถือว่าเป็นภาค 2 ของบล็อกที่แล้ว เมื่อผมยำตลับเบอร์ 22 ของ HP ซึ่งเป็นตลับที่แถมมากับปริ๊นเตอร์ D2460 โดยใช้ทั้งการฉีดหมึก การใส่อิ้งค์แท้งค์(แบบเจาะรูผิด) รวมทั้งการเอาสายยาง ไปสวมต่อกับปลายข้องอ คล้ายๆกับข้องอแบบมีเข็ม ฯลฯ


ฟองน้ำภายในคงจะกระทบกระเทือนมากพอสมควร เนื่องจากที่ผมเอาสายยางไปสวมเพิ่มความยาวของข้องอนั้น พอเสียบลงไปในฟองน้ำ สายยางเกิดพับตัว ใช้งานไม่ได้ ก็ต้องดึงออก ลองไปลองมา ปรากฏว่าฟองน้ำในช่องสีแดงไม่ยอมอุ้มน้ำหมึก พอเห็นแววว่าจะเลอะเทอะไปกันใหญ่ อาจจะลามไปถึงแผ่นเมนบอร์ดด้านล่างเสียเปล่าๆ เลยตัดสินใจปลดประจำการ


ไปถอยตลับเบอร์ 22 มาใหม่ คราวนี้เป็นตลับเต็ม (ราคาเกินครึ่งพัน...ใจหายวาบ!)พร้อมกับสั่งข้องอแบบมีเข็มมาด้วยเลย


มาดูตลับเบอร์ 22 กันก่อน หน้าตาของเดิมๆเป็นอย่างนี้





ตำแหน่งของช่องอากาศ จะเป็นดังนี้





สีหมึกของแต่ละช่อง ก็ตามที่ผมให้สีไว้ (ไม่ได้เรียงตามสติ๊กเกอร์ของตลับนะ...ตกม้าตายมาหลายคนแล้ว!)


ความพิเศษของช่องที่ 1,4,5 ก็คือ เขาได้ "เซาะ" ร่องที่มีความลึกเล็กน้อย สลับไปสลับมาไปบรรจบกับช่องแต่ละช่อง เพื่อจุดประสงค์ที่ว่า เมื่อปิดสติ๊กเกอร์ของตลับลงไปแล้ว อากาศจะสามารถวิ่งเข้าไปยังช่อง 1,4,5 ได้ เพื่อไปแทนที่น้ำหมึกที่ถูกใช้ไปนั่นเอง


ส่วนช่อง 2 และ 3 นั้น ทำท่าเซาะร่องไว้เหมือนกัน แต่ไม่ไปบรรจบกับปากช่อง คงเหลือเป็นพื้นที่เรียบๆรอบรูเจาะไว้เล็กน้อย


ช่องหมึกสีเหลือง จะเจาะออกมา 2 รู คือ 2 และ 4 
ช่องหมึกสีน้ำเงิน จะเป็น 3 และ 5 
สีแดงเป็นรู 1 ซึ่งมีรูเดียว ไม่มีปัญหา...


สาระสำคัญของการทำ INKTANK คือจะต้องไม่มีอากาศรั่วไหลที่ใดๆได้ นอกจากรูของช่องเล็กๆที่แท้งค์หมึกเท่านั้น


ดังนั้น จุดที่จะต่อกับฐานยางเพื่อเสียบข้องอของสายส่งน้ำหมึก ผมจึงเลือกใช้ 1,4,5 โดยต้องปิดรู 2 และ 3 ให้สนิท


หลังจากไตร่ตรองด้วยความรอบคอบ(หรือมักง่าย) ผมลงความเห็นว่า ผมควรจะเปิดสติ๊กเกอร์เฉพาะรูที่ต้องการใช้ดีกว่า กาวที่ติดมาจากโรงงานน่าจะแน่นหนาอยู่แล้ว ว่าแล้วผมก็จัดการใช้คัทเตอร์กรีดสติ๊กเกอร์ แบ่งส่วนออกมาได้หน้าตาดังนี้





คือตรงกลาง บริเวณรู 2 และ 3 ผมปล่อยสติ๊กเกอร์ปิดไว้อย่างเดิม ลอกออกเฉพาะส่วนบนและส่วนล่าง หลังจากนั้นก็จัดการเสียบฐานยาง เสียบข้องอลงไป แล้วก็ทดลองพิมพ์ (ลืมบอกไปว่า ผมได้เตรียมแท้งค์หมึก และเดินน้ำหมึกเข้าสายไว้เรียบร้อยแล้ว)


ปรากฎว่าพิมพ์ได้ เพราะหมึกเดิมในตลับยังมีอยู่ แต่พอหยุดพิมพ์ น้ำหมึกจะไหลย้อนลงมา เห็นเป็นช่องว่างในสายหมึก อยู่ประมาณ 1 ซม.


พอสั่งพิมพ์ หมึกก็จะถูกดูดเข้ามาเต็มสาย แต่พอหยุดพิมพ์ ก็ไหลย้อนลงไปที่เดิมทุกที นี่คืออาการของอากาศเข้าไปในระบบได้...!


ทุกจุด ผมมั่นใจว่าไม่มีรั่วไหลแน่ๆ จุดเดียวที่เป็นไปได้ก็น่าจะเป็น บริเวณรู 2 และ 3 ที่มีสติ๊กเกอร์โรงงานปิดอยู่เท่านั้น


หลังจากไตร่ตรองด้วยความรอบคอบ(อีกครั้ง)ผมจึงตัดสินใจ ลอกสติ๊กเกอร์ออกทั้งหมด แล้วตัดเทปพันสายไฟสีดำ ให้ได้ขนาดพอเหมาะ นำไปปิดแทน โดยพยายามปิดให้สนิทที่สุด คลึกแล้วคลึงอีกจนแสบนิ้ว โดยเฉพาะ บริเวณขอบๆรูที่เป็นพลาสติคเรียบๆ ต้องเน้นเป็นพิเศษ ได้หน้าตาออกมาดังนี้





ว่าแล้วก็จัดการสั่งพิมพ์อีกที และอีกที และอีกที... ใช้ได้แล้ว ไม่มีการไหลย้อนกลับให้เห็นอีกเลย


ทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง พอใกล้จะลืมๆก็มาดูอีกที ก็ยังไม่มีการย้อนกลับ ทดลองพิมพ์ดู็ก็ออกครบถ้วนดี


ปิดเครื่อง-นอน-ตื่นมาตอนเช้า เปิดร้าน 9.00 น. ผ่านมา 7-8 ชั่วโมง ก็ยังไม่มีการไหลย้อนกลับใดๆ งานนี้ถือว่าผ่านแล้วครับ


Printer HP กับประสบการณ์อิ๊งค์แท้งค์
ที่บ้านผมใช้ D2460 ส่วนที่ทำงานมี 3745 และรุ่นอื่นๆที่หน้าตาคล้ายๆกัน ผมจับใส่อิ๊งค์แท้งค์ไปแล้ว 3 เครื่อง เนื่องจาก HP เป็นรุ่นที่ได้รับคำเตือนว่า ยุ่งยากและไม่คุ้ม ผมก็เลยต้องหาข้อมูลมากเป็นพิเศษ ซึ่งก็ยังไม่ 100% ที่เดียวนัก ต้องผ่านไปสักเดือน2เดือนจึงจะสรุปได้


มีอยู่ชุดหนึ่ง ที่ผมใช้แท้งค์แบบนี้

แท้งค์แบบนี้ จะใช้พื้นที่ทั้งหมดเก็บน้ำหมึก แต่จะทำ "ท่อ" กลมๆไว้ตรงกลาง เวลาใช้งาน จะปิดจุกใหญ่เอาไว้ แล้วเปิดจุกเล็ก คือเปิดท่อกลมๆตรงกลาง เพื่อให้อากาศดันน้ำหมึกไว้ในระดับหนึ่ง ตามหลักการแล้ว ตรงที่ผมชี้ "ระดับอ้างอิง" ไว้นั้น จะต้องอยู่ต่ำกว่าปลายข้องอ หรือบริเวณส่วนล่างของหัวพิมพ์ในเครื่อง


ตามหลัก(อีกที) ระดับน้ำหมึกทั้งหมด "น่าจะ" สูงเลยระดับอ้างอิงขึ้นมาได้ แต่ระดับน้ำหมึกในท่อกลมๆนั้น จะอยู่แค่ประมาณปลายๆท่อดังรูป


แต่พอเติมหมึกเข้าไปในแท้งค์แล้ว หมึกมีความทึบแสงพอสมควร ผมเลยไม่รู้ว่า ท่อกลมๆนี้ สามารถรักษาระดับแรงดันไว้ได้หรือเปล่า


ซ้ำร้าย...ถ้าปริมาณน้ำหมึกในแท้งค์ สูงเกินส่วนล่างของหัวพิมพ์ หมึกจะล้นออกหัวพิมพ์ทันที ไม่สามารถพิมพ์งานได้เลย


จึงขอสรุปเป็นการส่วนตัวว่า ถ้าเป็นแท้งค์ทรงตามรูปข้างบน ต้องไม่ให้ระดับน้ำหมึกทั้งหมด สูงเกินกว่าหัวพิมพ์ครับ


เมื่อสั่งแท้งค์รุ่นต่อไป ผมจึงเปลี่ยนมาใช้แบบรูปข้างล่างนี้ (แบบเดียวกับที่ใช้ที่บ้านอยู่ก่อนแล้ว)

แบบนี้แบ่งตัวแท้งค์เป็นช่องเล็กกับช่องใหญ่ การใช้งานปกติจะปิดช่องใหญ่ แล้วเปิดช่องเล็กไว้ ระดับหมึกในช่องใหญ่สูงเท่าไรก็ได้ ส่วนระดับหมึกในช่องเล็กนั้น ถ้าระบบไม่รั่ว น้ำหมึกจะถูกอากาศดันเอาไว้ที่เรี่ยๆพื้นแค่นั้น (ประมาณ 0.5 เซ็นต์)ซึ่งสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ซึ่งผมว่า ง่ายต่อการตรวจสอบ เพราะวันนี้อาจดูดีไม่มีรั่ว แต่วันต่อๆไปก็ไม่แน่เหมือนกัน


ระดับตรงช่องเล็กนี้ จะต้องไม่สูงเกินส่วนล่างของตลับหมึกที่ติดตั้งอยู่ในเครื่อง มีผู้แนะนำไว้ว่า ให้ต่ำกว่าส่วนปลายของข้องอ ที่เสียบลงไปในตลับหมึก 1 นิ้ว แต่ผมว่า มองจากส่วนล่างของตลับก็ได้ คือให้ต่ำกว่าส่วนล่างของตลับหมึกประมาณ 1 นิ้วเข้าไว้

และแท้งค์แบบหลังนี้ น่าจะเหมาะกับ HP นะ ผมว่า เพราะใช้มาระยะหนึ่งแล้ว ยังไม่มีปัญหาใดๆเลย ก็ต้องรอดูกันต่อไป...


เพิ่มเติมครับ
ที่ทำงานได้ถอย HP1560 มา 1 ตัว พร้อมตลับ #21 และ #22 หน้าตาแบบนี้อีกแล้วครับ รู้สึกว่า HP จะออกมาหลายรุ่นทีเดียว ก็ไม่รู้ว่าแตกต่างกันอย่างไร ที่ทำงานผมก็ซื้อได้ซื้อดี 4-5 ตัวเข้าไปแล้ว(แต่ไม่ได้ซื้อพร้อมกัน) ครบรุ่นซะแล้วมั้ง

คราวนี้ไม่ให้พลาด จัดการทำ INKTANK ใส่กับตลับแถม #22 ทันที ข้อดีของตลับแถมก็คือ มีเฉพาะรู 1, 4, 5 ครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องอากาศจะเล็ดลอดเข้าไปได้ ติดตั้งและทดสอบแล้วราบรื่นมาก ณ วันนี้ 13 พ.ย. 2551 เริ่มใช้งานครับ เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะจะกลับมารายงานครับผม สวัสดีครับ...


เคดิต http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=loongmit&month=08-11-2008&group=9&gblog=42